บทความ

Intern life

2018 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ต้นปียังเป็น extern ทำงาน อนส สอบ ใช้ชีวิตชิวๆ มีเพื่อน มีรุุ่นพี่รุ่นน้อง พอเรียนจบ ก็ดีใจนะ แต่ใจหายมากอยู่ ที่ต้องออกมาเป็น intern ข้างนอกข้างนอกคนเดียวในรพ.ที่ไม่มีรุ่นพี่รุ่นน้อง และไม่มีเพิ่อน เป็นintern คนเดียวรุ่นแรกของรพ. ที่มีแต่ staff วันแรก 23/5/2018 ไปทำงานที่ opd gp คนไข้คนแรก มาขอยา gerd วันนั้น ฝตรวจคนฝตรวจคนไข้ได้ 8 คน consultไป 50% ยัง mx เคสไม่ค่อยได้ เปิดdoseยา กลับไปร้องไห้ รีบอนส เพื่อไปตรวจต่อพรุ่งนีั วันต่อมาวันต่อมาก็ตรวจได้มากขึ้นนิดหน่อย โชคดีที่พี่gp ใจดี ให้conตลอดเลย วันที่ 1/6 ทำงานจริงเป็น intern เริ่มด้วย ped 1 mo แบบชิวๆ แต่ก้ยังไม่ชินกับความเหงามากๆอยู่ดี ช่วงแรกๆนี่ร้องไห้ทุกวันเลย มันโดดเดี่ยวมากจริงๆ คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ คิดถึงขอนแก่นมากมาย เวลาไปวน er ตอนแรกๆนี่ mx แบบกลัวๆ ไม่มั่นใจ con staff บ่อยๆ แบบแค่เคสแมวกัดหมากัดยังงงๆ ต้องโทรถามเต้องโทรถามเพื่อนที่เคยโดนกัดว่าเขาทำไรไปบ้างนะ แต่ก้เคยเรียนแต่ก้ไม่ชัว งือๆ ก้ไม่เคยวน er ตอน ext นี่นา ผ่านศัลย์ออกโถแบบชิวๆ จนกระทั่งขึ้นmed กังวลที่สุดในสามโลก เนื่องจากก็ยากสำหรับเ...

To Japan

รูปภาพ
***รูปชัดต้องกดดูที่รูป (งงนานมากว่าทำมายมานไม่ชัดเบย ถถถ) เยย้ ได้มาอัพแล้ว ทริปไปญี่ปุ่น ครั้งนี้ถือว่าไปครั้งที่ 2 ละเนอะ นับจากครั้งแรกคือไปตอนม.5 กับเพื่อนวมว. ที่ไปดูงานห้องเรียนวิทย์ เอาจริงๆก้ลืมเกือบหมดแล้ว รูปก้หายไปหมดเลย 😅 Day 1 : ออกเดินทาง ไปกรุงเทพ 🚌 15/4/61 ไปล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เดินเล่นแถว Asiatique เป็นพวกร้านอาหาร ร้านขายของ ยามค่ำคืน Day 2 : เยี่ยมญาติฝ่ายแม่ 👨‍👩‍👧‍👦 16/4/61 ไปแถวๆเยาวราช ไปวัด__  จากนั้นไปเยี่ยมญาติๆ จนบ่ายสามไปสนามบินสุวรรณภูมิ ทัวร์นัด 1 ทุ่ม และเครื่องออก 4 ทุ่มครึ่ง นี่เลยเดินเล่นทั่วสนามบินเลย ว่างมากจีจี Day 3 : โอฮาโย ~ ถึงญี่ปุ่นแล้ว 🇯🇵 17/4/61 โดนปลุกประมานตี 2 เวลาไทยให้กินข้าวบนเครื่อง ละถึงญี่ปุ่นประมานตี 4 [เวลาญี่ปุ่นก้ 6 โมงเช้าพอดี] สภาพข้านั้นคือง่วงและง่วงมากจ้า ถึงสนามบินNarita พอเดินออกจากสนามบินเท่าน้าน หนาวชห อากาศ 11องศา และ ฝนตก hello ต้อนรับด้วยความหนาวเลย ตอนแรกบอกว่า 16 องศานี่นา แง เดินทางออกจากสนามบิน โดยไม่มีการอาบน้ำใดๆ [ตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า >0<] ไปที่แรกคือวัดอาซา...

To say goodbye

รูปภาพ
ปิดเทอมแล้ว ปิดเทอมสุดท้ายแล้วจริงๆ เรียนจบหมอแล้ว 6 ปี ใครบอกยาก นี่บอกเลยว่า โคดยากก ยากสำหรับการต้องท่องจำ เข้าใจ นำไปใช้ รวมถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ การต้องมารพ.ก่อน 7 โมง อยู่เวร อ่านหนังสือ ทำ ww ปรับตัวทุกๆครั้งที่ขึ้น rotate ใหม่ๆ มันเหนื่อยนะ  แต่เหนื่อยกายพักก็หาย : ) สิ่งที่ได้มากกว่าความรู้ คือ การได้เจอเพื่อนที่ตอนเรียนพรีคลินิคไม่เคยคุยกันเลย กลายมาเปนเพื่อนสนิทมากๆ ได้รู้จักพี่ๆmd38 39 และพี่เดนท์ที่เคยเห็นบ้าง แต่ไม่เคยรู้จัก ซึ่งพอได้รู้จักจริงๆแล้วพี่ๆน่ารักมากๆ สังคมที่เจอมันดีมากๆ ได้รู้จักมิตรภาพ การช่วยเหลือ การแบ่งปัน และน้ำใจที่มากมายของทุกๆคน (โดยเฉพาะเวลาที่งานหนักๆ ww เยอะๆ) ช่วงที่รู้สึกไม่ชอบที่สุดใน 6 ปีคงจะเป็น med ปี4 เป็นช่วงที่ความรู้มากมายไหลเข้ามา แต่เราไม่สามารถเข้าใจหรือจำมันได้เลย รวมกับ WW ที่เยอะมากมาย รายงานอีก อยู่เวรบลาๆๆ และก็สอบosce caseไม่ผ่าน (เปนการสอบตกครั้งแรกและครั้งเดียว แต่ก้แก้ท้ายบลอคผ่านอยุ) และก้ได้ C+ แบบผ่านมาได้ไง แต่หลังจากผ่านช่วงนั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ข้อสอบที่ยากที่สุดในการเรียนคือ ped ปี 5 คือบั้บบบ ยากเว่อ ยากจริ...

Imperfection

บางทีที่กำหนดให้ช่วงมหาลัยเราไม่ใช่นศ.พ.แถวหน้าทั้งการเรียนและกิจกรรม มันก้เป็นสิ่งที่ดีนะ  ทำให้เรามีทิฐิอีโก้ลดลง เข้าใจคนอื่นมากขึ้น มองโลกสีเทามากขึ้น ไม่ใช่ขาวหรือดำ Imperfect made life being colorful สิ่งที่คิดได้หลายครั้งแต่ไม่เคยบันทึก

Growing up

ตอนนี้เป็นช่วงแห่ง extern ที่ผ่านความ ped med และ ortho มาแล้วว รุสึกว่าอะไรๆก้เริ่มอยู่ตัวมากขึ้น ทั้งการจัดแบ่งเวลา การทำงาน การอ่านหนังสือ การอยู่เวร รู้สึกว่าโตมากขึ้น ในทุกๆเรื่องเลย แต่ก็ยังต๊องๆเหมือนเดิมเวลาไม่ได้ทำงาน ออกรพ.ข้างนอกนี่ออกไม่ซ้ำกันเลยซักบลอค เด็กไปรพ.หนองคาย เหมดไปอุดร ออโถไปกาฬสินธุ์ สูติไปร้อยเอ็ด ศัลย์(แพลนว่า)ไปสารคาม ก็แปลกดีเนอะ รู้สึกขอบคุณที่ได้เจอเพื่อนที่เราสนิทด้วยที่วนด้วยกัน ปลอดภัยทางจิตใจ (ไม่เหมือนปี4เนาะ)   ช่วงนี้เปนบลอคสูติ มีความว่างมากขึ้น ได้วนกับอจ.พี่พล ที่ฟีดดีชห.  จนแทบจาไม่ต้องอนสเลย ละก้อเปนช่วงเดือนธค. เป็นเทศกาลรับปริญญากับแต่งงาน วันหยุดเย้ออมาก และเวรก้งอกมากเช่นกัน -..- ได้กลับมาออกกำลังกายดูแลตัวเองมากขึ้น จากที่ยับเยินช่วงเหมดก่าออโถมา รู้สึกได้ใช้ชีวิตมากขึ้น 555 แต่เดี๋ยวจบสูติขึ้นศัลย์มันก้จะยุ่งชห จะกลับมาเยินอีก สอบ NL3 ก่ะ meqคณะอีก แต่ก้ใกล้จบแล้ว ชินกับความเยินๆนี้ไปแล้ว :) คิดแล้วก้ใจหายเหมือนกัน นี่เราต้องไปที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ชีวิตมันก้ต้องก้าวออกจาก comfort zone การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะท...

Healing

แพทย์ที่ดีที่สุดของโลก 7 คน คือ.- 1.Sunlight แสงอาทิตย์ 2. Rest การพักผ่อน 3. Exercise การออกกำลังกาย 4. Diet โภชนาการ 5. Positive Thinking. ความคิดในทางบวก 6. Self Confidence ความมั่นใจในตนเอง 7. Friend เพื่อน

วันใดที่เทอท้อ

พรุ่งนี้แล้วเปิดเทอม extern ปีที่อาจจะเหนื่อยที่สุด หนักที่สุด ร้องไห้บ่อยที่สุด เหงาที่สุด (แต่ก้คงไม่เท่าตอนอกหักหรอกมั้งงง) อาจจะคิดลาออกเลยก้อได้ แต่ ถ้าวันไหนท้อ ขอให้เปิดกลับมาดูที่นี่นะ วันนี้อาจจะแย่ อาจจะเหนื่อย หนัก ไม่รู้ต้องเดินไปทางไหน วันที่อาจจะร้องไห้หนัก แต่ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร วันที่รู้สึกโดดเดี่ยวมากที่สุด ขอให้นึกถึงพ่อแม่ นึกถึงตัวเอง กว่าจะมาถึงจุดๆนี้เราผ่านอะไรมาตั้งมากมาย ยังมีคนลำบากกว่าเราอีกมาก ที่ยังรอการช่วยเหลืออยู่ ขอให้จอยอดทน ตั้งใจ สู้ต่อไป แล้วสักวันหนึ่ง มันจะเป็นวันของเรานะ พิมพ์ตอนนี้ยังน้ำตาคลอๆเลย ... แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี ปล คิดไม่ออก เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ออกไปวิ่ง แล้วมันจะดีขึ้นนะ :))